
สำหรับผู้ดูแลระบบเครือข่าย Data Center ที่ทำงานกับ Cisco ACI (Application Centric Infrastructure) การกำหนดพอร์ตแบบ Static Port ให้กับ Endpoint Group (EPG) ถือเป็นหนึ่งในงานที่พบบ่อยที่สุด แต่ก็อาจเป็นงานที่น่าเบื่อและใช้เวลามากที่สุดงานหนึ่งเช่นกัน
หากเราเคยตั้งค่าผ่านหน้าจอของ APIC (Application Policy Infrastructure Controller) โดยตรง เราจะคุ้นเคยกับกระบวนการที่ต้องทำซ้ำๆอย่างการเลือก EPG, คลิกขวา, เลือก “Static Ports” แล้วกำหนดค่าทีละพอร์ต… ทีละพอร์ต… และทีละพอร์ต หากคุณต้องกำหนดค่า 20 หรือ 40 พอร์ตบน Leaf Switch ตัวเดียว นั่นหมายถึงการคลิกและกรอกข้อมูลซ้ำๆ นับสิบครั้ง ซึ่งไม่เพียงแต่เสียเวลา แต่ยังเพิ่มโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย
แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถกำหนดค่าพอร์ตทั้งหมดที่ต้องการ เช่น Leaf101-102 กำหนด Ethernet1/1-24 ให้กับ EPG เดียวกันได้ในขั้นตอนเดียว?
Cisco NDO ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือสำหรับบริหารจัดการ ACI หลายๆ Fabric (Multi-Site) เท่านั้น แต่ยังมอบความสามารถในการสร้างและปรับใช้ Policy ผ่านสิ่งที่เรียกว่า “Schema” และ “Template” ซึ่งหนึ่งในความสามารถที่โดดเด่นและช่วยประหยัดเวลาได้อย่างมหาศาล คือการกำหนด Static Port เป็น Range ได้นั่นเอง
บทความนี้จะแสดงขั้นตอนการตั้งค่า Static EPG on Port บน Cisco ACI ผ่าน NDO อย่างละเอียด
สิ่งที่ต้องมีก่อนเริ่ม
- ระบบ Cisco Nexus Dashboard ที่ติดตั้งและเปิดใช้งาน Service NDO เรียบร้อยแล้ว
- ACI Fabric ของคุณได้ถูก Onboard เข้ามาบริหารจัดการใน NDO แล้ว
- มี Schema และ Template ที่สร้าง Tenant, Application Profile, และ EPG ที่ต้องการตั้งค่าไว้แล้วใน NDO
ขั้นตอนที่ 1: ล็อกอินและเข้าสู่ NDO
- ล็อกอินเข้าสู่หน้าเว็บของ Cisco Nexus Dashboard
- จากหน้าแรกให้เลือกที่ Nexus Dashboard Orchestrator
ขั้นตอนที่ 2: ไปยัง Schema และ Template ที่ต้องการ
- เลือกเมนู Manage > Tenant Templates
- เลือก Schema ที่ต้องการ
- เลือก Template ที่เราต้องการ
ขั้นตอนที่ 3: ค้นหา EPG ที่ต้องการ
- เลือก Fabric และ EPG ที่ต้องการจะ Deploy
- เราจะเข้ามาใน EPG ที่จะ Manage
ขั้นตอนที่ 4: เพิ่มการกำหนดค่า Static Port
- ให้เลื่อนลงมาจะมีเมนูสำหรับ Add Static EPG on PC, VPC or Port
โดยจากตัวอย่างนี้เราจะเลือกเป็น Leaf201-202 Port 1/1-24 Vlan 701
- Path Type เราจะเลือกเป็น Port
- Pod เลือก Pod ที่ต้องการแก้ไข
- Interface Configuration **ในการแก้ไขหลายๆ Port หรือหลายๆ Leaf พร้อมกัน** เราจะเลือกเป็นแบบ Range
- Leaf เลือก node ที่ต้องการจะ Config ในที่นี้เป็น 201-202
- Path เลือก Range ของ Interface ที่เราต้องการ ในตัวอย่างจะเป็น 1/1-24
- Port Encap VLAN ใส่ VLAN ที่เราต้องการใช้งาน ในตัวอย่างจะเป็น 701
- Deployment Immediacy เลือกที่ต้องการใช้งาน ในตัวอย่างจะเป็น Immediate
- Mode เลือกตามที่ต้องการใช้งาน ในตัวอย่างจะเป็น Trunk
และเมื่อตั้งค่าเสร็จเรียบร้อยให้เรากด Save เราก็จะได้ Port ที่ถูก Config ไว้ตามที่เราตั้งค่าก่อนหน้านี้ เมื่อตรวจสอบเรียบร้อยให้กด ok เพื่อเราจะไปสู่ขั้นตอนถัดไป
ขั้นตอนที่ 5: Save Schema และ Deploy
- เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยเราจะเห็น tag สีเขียวมุมซ้ายบนของ EPG แสดงให้เห็นว่า EPG นั้นมีการเปลี่ยนเปลี่ยนค่าภายใน
- จากนั้นให้เรากด Save Schema (มุมขวาบน) เพื่อ Save Shema ที่เราเปลี่ยนไป
- และสุดท้ายทำการ Deploy Template
เมื่อ Deploy Template เรียบร้อยก็เป็นอันสิ้นสุดขั้นตอนโดยเราจะเห็น ค่าต่างๆเปลี่ยนไปผ่าน Template Summary และดู Last Deployed ได้จากตรงนั้น และสามารถไปตรวจสอบให้มั่นใจผ่านการเข้าไปดูที่ APIC Node ที่เรา Deploy ไป
การนำ Cisco NDO มาใช้ในการกำหนดค่า Static Port ช่วยเปลี่ยนกระบวนการที่ต้องทำซ้ำๆ และใช้เวลามาก ให้กลายเป็นงานที่รวดเร็วและแม่นยำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย กับเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ