
“Data is the new oil” นี่เป็นคำพูดที่ไม่ได้เกินจริงเลยใช่ไหมครับ เราอยู่ในยุคที่ข้อมูลกลายเป็นสินทรัพย์มหาศาล โดยเฉพาะการแข่งขันทางธุรกิจ จำเป็นต้องใช้ข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์ หรือวิจัยทางการตลาด หากใครมีข้อมูลมาก ก็จะมีศักยภาพในการแข่งขันสูง
ทุกวันนี้การเก็บข้อมูลขององค์กรต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงจากอดีต โดยเริ่มตั้งแต่ยุคสำรองข้อมูลผ่านทาง Floppy Disk, Flash Drive, External Hardisk และปัจจุบันหลายองค์กรก็มักจะเช่าพื้นที่เก็บไว้บนคราวด์ (Cloud) ซึ่งมีการการันตีข้อมูลที่จะไม่สูญหาย แต่หากเรายังมีความต้องการเก็บข้อมูล และป้องกันการสูญหายด้วยตัวเอง เราอาจจะต้องลงทุนซื้อ Storage หรือหน่วยความจำที่เพียงพอ รวมไปถึงคิดเรื่องการป้องกันข้อมูลที่อาจจะสูญหายได้ จากภัยพิบัติต่าง ๆ เช่นไฟไหม้, อุปกรณ์ชำรุด เป็นต้น
หากในดาต้าเซ็นเตอร์ของเรามีการใช้งาน Virtual Machine หลายคนคงนึกถึงการทำ Snapshot หรือ Cloning เพื่อป้องกันข้อมูล ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอ เนื่องจากข้อมูลยังอยู่ภายใต้ดาต้าเซ็นเตอร์เดิมของเราเอง หรือดีหน่อยตัวที่เราทำ Cloning ก็อาจจะอยู่คนละ Host หรือ Server Node ได้ อีกทั้งการ Snapshot ก็มีข้อจำกัดคือ เราสามารถ Snapshot VM ใด VM นึง ได้เพียงแค่ 31 ครั้ง จึงอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการสำรองข้อมูลที่สำคัญของ VM นั้น ๆ ในทุก ๆ วันได้ หากใช้วิธี Auto Snapshot แต่ละวันก็ต้องมานั่งไล่ลบ Snapshot เดิมทิ้งออกไป
Cisco Hyperflex ซึ่งเป็น HCI (Hyperconverged Infrastruture) ของ Cisco มีการทำ RF หรือ Replication Factor ให้เลือกคือ 2 และ 3 เพื่อทำการกระจายการ copy ของข้อมูลไปยัง Node ต่าง ๆ ตามที่เราได้เลือกจำนวนของ RF ไว้ เช่น RF2 คือการ copy ข้อมูลเดียวกันกระจายไปยัง Server 2 ตัว หาก Server ตัวใดตัวหนึ่งเกิดความเสียหาย เราก็ยังมีข้อมูลอีก Server นึงอยู่นั่นเอง
จะเห็นได้ว่าการทำ Data Protection หรือการป้องกันข้อมูลสูญหายเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และหลาย ๆ องค์กรก็ให้ความสำคัญ ไม่เพียงแค่การทำ Snapshot, Cloning, HA, RF แล้วนั้น แต่ Cisco Hyperflex ได้มี Feature ที่สามารถป้องกันข้อมูลสูญหายติดตัวมาให้
เราจะไปดูวิธีการทำแบบ Step by Step ด้วยกันเลยนะครับ ตามตัวอย่างเราจะมี Hyperflex 2 Cluster เพื่อทำการสำรองข้อมูลข้ามกัน จะมี 3 ขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้ครับ
1.การคอนฟิกเครือข่าย เพื่อเป็นช่องทางในการป้องกันและสำรองข้อมูล
2.การ Pair Site เข้าหากัน
3.การสร้างProtection Group
ให้ผู้ดูแลระบบไปยังหน้า GUI ของ Hyperflex Connect ซึ่งปรากฎตามตัวอย่างด้านล่างนี้ เราจะเห็น Best Practice หลังจากที่ได้ Deploy Hyperflex เสร็จเรียบร้อยแล้ว เกี่ยวกับการ Backup ตัว Workloads หรือ VM ในระบบของเราเองด้วยเช่นเดียวกัน
จากนั้นให้ไปยังเมนู Replication และคลิกไปยัง Configure Network (หากเป็น HXDP version 4.5 ขึ้นไป จะมีปุ่มให้คลิกเลย)
สร้าง VLAN ใหม่ขึ้นมา เพื่อเป็น Replication VLAN ซึ่งจะเป็นช่องทางในการทำให้ข้อมูล Pair ไหลข้ามผ่านไซต์ทาง VLAN นี้ ตามตัวอย่างด้านล่างนี้
ทำการคอนฟิกค่า Subnet, Gateway, Bandwidth ที่จะจำกัดให้กับ Traffic ที่ทำการ Replicate และ MTU
เมื่อใส่ค่า Configuration เรียบร้อยแล้ว ระบบจะทำการตรวจสอบและเทสว่าผ่านหรือไม่ หากไม่ผ่านจะมี log แจ้งเตือนเช่น VLAN ยังไม่ได้ Tag ตลอดเส้นทาง, Subnet ยังไม่เห็น Gateway เป็นต้น หากเทสผ่านจะมีคำว่า Succeeded ปรากฎ ให้ทำการกดปุ่ม OK เพื่อปิดหน้าจอ
ทำการ Setup Site Paiting และ Datastore Mapping โดยคลิกไปยัง Pair Cluster และใส่ชื่อของ Replication Pair Name ตามตัวอย่างด้านล่าง เมื่อเสร็จแล้วให้ทำการกดปุ่ม Next
ทำการคอนฟิก Pairing Cluster รวมถึง Run Test เมื่อผ่านแล้วให้กดปุ่ม Next
สร้าง Datastore Mapping โดยทำการเลือก Datastore ที่ต้องการ เมื่อเสร็จแล้วให้กดปุ่ม Map Datastores
หลังจากกำหนดค่า Pairing และ Datastore Mapping ต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วนั้น จะได้ภาพตัวอย่างตามด้านล่างนี้
ผู้ดูแลระบบสามารถเทส Network โดยไปยังมุมขวาบน เลือกที่เมนู Action และเลือก Test Local Replication Network เพื่อทำการเทสได้ หากไม่มีปัญหาจะมีข้อความแจ้ง Succesfully Initiated ตามภาพด้านล่างนี้
หากมีข้อความ Error จะขึ้นแจ้งเตือน ให้เราไปปรับแก้ไขเรื่อง Network ก่อนที่จะทำการเทสใหม่อีกครั้ง เพื่อสามารถดู Activity Test ใหม่อีกครั้ง หากผลลัพธ์สถานะเป็น Success ก็สามารถ นำข้อมูล Workloads ต่าง ๆ Replicate ข้อมูลผ่านเครือข่ายที่คอนฟิกไว้แล้วได้ทันที
เมื่อคอนฟิกเครือข่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ไปยัง Virtual Machine บน Hyperflex Connect โดยไปยังเมนูทางด้านซ้ายที่ชื่อว่า Virtual Machines
เมื่อเข้ามายัง Virtual Machines ผู้ดูแลระบบจะเห็น VM หรือ Workload ทั้งหมดที่อยู่ภายใน HX Cluster ให้ทำการเลือก VM ที่ต้องการทำ Replication โดย Check box ไปยังอุปกรณ์ VM นั้น และทำการกดปุ่ม Protect
ทำการสร้าง Protect Vitual Machines โดยสร้าง Protection Group และเลือกเวลาในการ Protect Schedule ในทุก ๆ ช่วงเวลาตามที่ต้องการ ซึ่งจะเห็นได้ว่าขั้นต่ำสุดของ Hyperflex ที่ทำได้คือ 5 นาที แต่ในตัวอย่างนี้เราจะเลือก Schedule ที่ 1 ชั่วโมง
ไปยังเมนู Summary ของการทำ Protection Group และ Protection Schedule ตามตัวอย่างด้านล่างมีการ Protect ไว้ทั้งหมด 2 Virtual Machines โดยให้ Replicate ทุก ๆ 1 ชั่วโมง และเริ่มทันทีหลังจากคอนฟิกเสร็จ เมื่อเสร็จแล้วให้กดปุ่ม Add to Protection Group
เราจะเห็น Virtual Machines ที่ทำการ Protect ไว้แล้ว โดยมีสถานะว่า Protected ตามภาพด้านล่าง คือ HXRepTest-1 และ HXRepTest-2
ผู้ดูแลระบบสามารถ Edit หรือเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาในการ Protect ได้ตามภาพด้านล่างนี้ เราสามารถแก้ไขจาก 1 ชั่วโมงเป็น 1 ชั่วโมงครึ่งหรือ 90 นาทีได้ หรืออยาก Protect หรือ Replicate ไว้เพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถทำได้เช่นกัน
ด้านล่างเป็น HXRepTest-3 เป็นตัวอย่างที่ต้องการ Replicate ข้อมูลก้อน VM ไว้ 90 นาที
เมื่อกลับมายังเมนู Local VMs บนตัว HX1 Cluster (DC Site) จะเห็นได้ว่า มีรายละเอียดของ VMs และ Direction แบบ Outgoing ตามภาพด้านล่าง แสดงให้เห็นว่ามีการ Replicate ข้อมูลอยู่ ณ ปัจจุบัน
ส่วนใน Hyperflex Connect ของ HX2 Cluster (DR Site) เป็น Datacenter ที่รับข้อมูลในการ Backup จะมี Direction เป็น Incoming ตามภาพด้านล่าง
ภาพหน้าจอของ Hyperflex Connect มีข้อมูลที่อ่าน เขียน เกิดขึ้น ในช่วงระหว่าง Replicate ข้อมูลข้าม Site หรือข้าม Cluster
เมื่อข้อมูลมีการ Replicate เรียบร้อยแล้ว ตัว Virtual Machine จะมีสถานะเป็น Protected สีเขียว
สังเกตในเมนู Replication Activity จะเห็น Status ว่า Completed เช่นกัน และแจ้งรายละเอียดเวลาเริ่มในการ Replicate จนกระทั่งจบ
วิธีการในการ Recover ตัว VM หากมีภัยพิบัติ หรือข้อมูลเสียหายเกิดขึ้น ให้ทำการเลือก VM ที่ต้องการจะ Recover โดยพิจารณาที่ฝั่ง Remote VMs ที่สถานะเป็น Protected
พิจารณาที่ฝั่ง HX2 หรือ DR Site ในเมนู Remote VMs กดปุ่ม Test Recovery เพื่อทำการเทส
กำหนดค่า VM Name และ Map เข้ากับ VM Network ตามตัวอย่างด้านล่าง
เมื่อทดสอบ และเทสเรียบร้อยแล้วจะได้ผลลัพธ์เป็น Success เพื่อพร้อมที่จะสามารถ Migrate ก้อน VM ได้
ทำการเลือก Check box VM ที่ต้องการ และทดสอบการย้าย VM โดยกดปุ่ม Migrate ในเมนูด้านบน
ทำการเลือก VM Network ว่าเป็น Network VLAN ไหนในการ Migrate
ภาพด้านล่าง จะเห็นได้ว่า HXRepTest-3 ได้ Migrate จาก HXAF220 Cluster ไปยัง HXC220M4 Cluster เรียบร้อยแล้ว โดยมีชื่อว่า Recovered-1
วิธีการ Recover ให้ Check box ตัว VM ที่ต้องการและ กดปุ่ม Recover
เลือก VM Network ในการ Recover
จะสังเกตเห็น Status ของ VM ที่เราเลือก Recover เปลี่ยนเป็น Recovering หมายถึงกำลัง Recover ตัว VM ขึ้นมา
ใน vCenter จะเห็น HXRepTest-1 ที่ทำการ Recover มาอยู่ที่ Cluster DR
เมื่อ Recover เสร็จเรียบร้อยแล้ว หากกลับมาดูที่ Hyperflex Connect จะเห็นสถานะเป็น Recovered นั่นเอง
และนี่คือทั้งหมดของวิธีการ Replicate ข้อมูล และการ Recover ผ่าน Cisco Hyperflex ซึ่งทาง Cisco ได้ให้เมนูนี้มากับ Hyperflex Dataplatform Software ด้วย หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ ไม่ว่าจะเป็นทาง Facebook Fanpage ของเรา https://www.facebook.com/ablenetcompany หรืออีเมล์ติดต่อใน Contact ได้เช่นกันครับ
Reference: Hyperflex Data Protection Deep Drive CiscoLive!, 9-13 2019, San Diego, CA, USA
#Cisco #Hyperflex #Datacenter #Replication #VMware