
ในยุคปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่มี smartphone, tablet, laptop หรืออุปกรณ์ IOT ต่างๆ ติดตัวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะใช้ทำงาน ติดต่องานกับลูกค้า คุยเล่นกับเพื่อน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ ฯลฯ และทั้งหมดนี้จะไม่สามารถทำได้เลยถ้าไม่มี Internet และถ้าพูดถึง internet สิ่งที่เรามักจะเห็นมาคู่กันเสมอเลย นั่นก็คือ “IP Address” ในบทความนี้เราจะทำการพูดถึง IP ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน นั่นคือ IPv4 ว่ามันคืออะไร ทำไมเราถึงควรจะรู้จักกับมัน
IP (Internet Protocol) คือ Protocol ที่ใช้เป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่าง Network Devices ซึ่งเป็น Protocol บน Layer 3 ของ OSI Model โดยจะแบ่งเป็น 2 Version นั่นคือ IPv4 และ IPV6
IP Address คือ ชุดของตัวเลขที่ใช้ระบุที่อยู่ของเครื่องนั้นๆ เปรียบเทียบได้กับบ้านเลขที่ ซึ่งอุปกรณ์ Network ทุกชิ้นที่ต้องการสื่อสารกันจำเป็นต้องมี IP (ในกรณีที่เป็น IPv4 จะมีขนาด 32 bits) ซึ่งจะมีลักษณะเป็นชุดของตัวเลข 4 ชุด แต่ละชุดจะคั่นด้วย ‘.’ โดยจะมีลักษณะดังนี้
วิธีการคิดหา IPv4
จากรูป เมื่อแปลง IP Address in Decimal แต่ละชุดมาเป็น IP Address in Binary จะได้เลข Binary ชุดละ 8 bits จำนวน 4 ชุด จะได้ 32 bits พอดี โดยตัวเลขที่สามารถใช้ได้จะมีค่าตั้งแต่ 0 – 255 ดังนั้น IPv4 จึงมีหมายเลขได้ตั่งแต่ 0.0.0.0 ถึง 255.255.255.255
IP Address in ฺBinary | IP Address in Decimal | |
IP address | 11000000.10101000.00000001.00001010 | 192.168.1.10 |
Subnet mask | 11111111.11111111.11111111.00000000 | 255.255.255.0 |
Network prefix | 11000000.10101000.00000001.00000000 | 192.168.1.0 |
Host part | 00000000.00000000.00000000.00001010 | 0.0.0.10 |
โดยการใส่ตัวเลขลงไปในแต่ละชุด เราจะไม่ใส่แบบมั่วๆ แต่จะมีหลักการใส่ที่เฉพาะเจาะจง ตาม Class ของ IP Address
IPv4 แบ่งออกเป็น 5 Class ได้แก่
Class A เริ่มตั้งแต่ 1.0.0.1 ถึง 127.255.255.254 เหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ เพราะมีช่วงของ IP Address ที่สามารถใช้ได้ถึง 224 หรือประมาณ 16 ล้าน Hosts
Class B เริ่มตั้งแต่ 128.0.0.1 ถึง 191.255.255.254 เหมาะกับองค์กรขนาดกลาง เพราะมีช่วงของ IP Address ที่สามารถใช้ได้ถึง 216 หรือประมาณ 65,000 Hosts
Class C เริ่มตั้งแต่ 192.0.1.1 ถึง 223.255.254.254 เหมาะกับองค์กรขนาดเล็ก เพราะมีช่วงของ IP Address ที่สามารถใช้ได้ถึง 28 หรือประมาณ 254 Hosts
Class D เริ่มตั้งแต่ 224.0.0.0 ถึง 239.255.255.255 ใช้สำหรับงาน multicast
Class E เริ่มตั้งแต่ 240.0.0.0 ถึง 255.255.255.254 ถูกสำรองไว้ ยังไม่มีการใช้งาน
สำหรับ IP Address ในช่วง 127.0.0.0 ถึง 127.255.255.255 ใช้สำหรับการทดสอบระบบ
แม้จะแบ่ง IPv4 ออกเป็น 5 Class แต่การใช้งานจริง เรามันกจะใช้เพียง Class A, B และ C เป็นหลัก
สรุป
IPv4 จะเป็นชุดของตัวเลขฐานสิบทั้งหมด 4 ชุด ชุดละ 8 bits โดยหลักการใส่ตัวเลขแต่ละชุด จะอ้างอิงจาก Class ของ IPv4 Address ที่ใช้ สำหรับรายละเอียดเชิงลึกกว่านี้จะมีอธืบายในบทความต่อไป