ในบทความนี้ จะอธิบายเกี่ยวกับ UPoE นะครับ แต่ก่อนอื่นไปทำความรู้จัก PoE กับ PoE+ กันก่อนเลย
Cisco POE
Cisco POE หรือเรียกชื่อเต็มๆ ว่า Power Over Ethernet นั่นคือสามารถส่งไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ Endpoint ได้ เช่น AP ,IP Phone , CCTV ผ่านทางระบบ LAN หรือสาย UTP ได้ แล้วทำไมเราต้องใช้ PoE ในระบบ LAN ล้ะ นั่นก็เพราะว่า ในบางครั้งการติดตั้งระบบสายไฟหรือปลั๊กไฟ สำหรับบางอุปกรณ์บางตัว อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เช่น Access Point ต้องติดตั้งบนเพดาน ที่ความสูง 5 เมตร การเดินสายไฟ ไปที่ Access point จะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากขึ้นมาทันที ดังนั้น เทคโนโลยี PoE เข้ามาเพื่อทำให้ปัญหาเหล่านี้ง่ายขึ้น โดยสามารถลากสาย UTP เพียงเส้นเดียวไปที่ Access Point และใช้ Switch หรือ Power Injector จ่ายไฟไปยัง Access Point ผ่านทางสาย UTP ได้เลย ก็จะทำให้ สาย UTP สามารถส่งได้ทั้ง Power และสัญญาณสำหรับการสื่อสารกับอุปกรณ์ใน Network ได้ด้วย เหมือนกับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวนั่นเองครับ แสดงการเชื่อมต่อ ดังรูป
Cisco ได้เสนอ และพัฒนาอุปกรณ์ของตัวเองเพื่อใช้รองรับการใช้งานตามมาตฐาน 802.3af-Based ซึ่งมาตรฐานนี้จะทำให้ Cisco ตระกูล Catalyst รองรับการใช้งาน Power over Ethernet (PoE) ซึ่งรองรับทั้งแบบ 10/100/1000 และ 10/100 และรองรับสูงสุดถึงแบบ 96 port 10/100 PoE บน Cisco Catalyst 6500 switch module ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ Cisco ออกแบบอุปกรณ์ของตัวเอง เช่น IP Phone , Access Point ให้รองรับมาตรฐานดังกล่าวด้วย
นอกจากนั้น Cisco Catalyst ได้ใส่ฟีเจอร์การคำนวนการส่ง Power ตามความต้องการของอุปกรณ์ที่ต้องใช้ด้วย ซึ่งช่วยให้ประหยัดพลังงานเมื่ออยู่ใน Mode Standby และสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่เมื่อต้องการ เช่น Access Point เมื่อไม่มี Client เกาะ Switch จะจ่ายไฟแค่พอเลี้ยง Access Point ให้ Power on ใน ในสถานะ Standby ได้ แต่เมื่อมี Client มาเกาะเพิ่มมากขึ้น ก็จะจ่ายไฟให้อย่างเต็มที่
มาตรฐาน PoE 802.3af บน Cisco PoE switch, 1 Port จะสามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 15W
Cisco PoE+
หลังจากประสบความสำเร็จในการนำเสนอมาตรฐาน PoE ในท้องตลาด Cisco จึงได้เกิดความคิดใหม่ขึ้น นั่นคือ ต้องการที่จ่ายไฟไปให้อุปกรณ์ Endpoint ให้ได้มากขึ้น จึงทำให้เกิดมาตรฐาน PoE+ ขึ้น โดยระบุว่าเป็นการเพิ่มความสามารถในการจ่ายไฟของ มาตรฐาน PoE นั่นเอง
Cisco ได้กล่าวว่านี่คือนวัฒกรรมใหม่ที่จะช่วยให้การสื่อสารภายในองค์กรจะสามารถพัฒนาและขยายเทคโนโลยได้ง่ายมากขึ้น เพราะมาตรฐานนี้จะช่วยจ่ายไฟได้มากขึ้น ทำให้อุปกรณ์ที่ต้องการใช้ไฟมากกว่า 15w สามารถใช้งานผ่านเทคโนโลยี PoE ได้
Cisco switch รองรับการใช้งาน POE+ โดยใช้ Cisco Discovery Protocal(CDP) ในการทำความรู้จักกับอุปกรณ์ Endpoint ในตอนเริ่มต้นจะจ่ายไฟให้ในระดับที่สามารถ Power on อุปกรณ์ขึ้นมาได้ก่อน และหลังจากนั้นจะอ่านข้อมูลจาก CDP และ Switch จะทราบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวใช้ไฟเท่าไหร่ และ Switch จะจ่ายไฟให้ตามนั้น เช่น อุปกรณ์ IP Phone รองรับการใช้ไฟตามมาตรฐาน PoE , switch จะจ่ายไฟให้ 15W แต่หากอุปกรณ์เป็น Access Point ที่ร้องรับการใช้งาน PoE+ Switch ก็จะจ่ายไฟให้ 30W
มาตรฐาน PoE+ ในปัจจุบันรองเกือบทุกรุ่นในตระกูล Cisco Switch ทั้งตระกูล Small Business(SG-Series) และ Catalyst Series
จาก White papers มาตรฐาน PoE+ บน Cisco Switch , 1 Port จะจ่ายไฟได้สูงสุดที่ 30W
Cisco UPOE
หลังจากมาตรฐาน PoE+ ได้มีการเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง Cisco ได้เสอแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า UPOE ซึ่งจะถูกใส่เข้ามาใน Cisco Switch ตระกูล 3850 และในตระกูล 9000
UPOE ความหมายที่แท้จริงของมันคือ Universal Power Over Ethernet ซึ่ง Cisco พยามผลักดันให้นวัฒกรรมนี้ เพื่อทำให้ UPOE เกิดขึ้นในโลกเทคโนโลยี โดยเทคโนโลยี UPOE จะจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 60W ทำให้รอบรับการจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ Endpoint ที่ต้องการไฟจำนวนมากๆ โดยประโยชน์ที่ได้รับคือ มีประสิทธิภาพการใช้งานที่สูงขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการใช้งาน การติดตั้ง และทำให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์ Endpoint ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
Cisco UPOE ทำให้การใช้งานในระบบเครื่อข่ายเนตเวิร์กนั่นง่ายขึ้น และทำให้ค่าใช้จ่ายของนั้นลดลง เช่น เทคโนโลยีทางด้าน virtual desktop infrastructure (VDI) , ระบบห้องประชุม , Enterprise Working Space , ห้องรองรับแขก และในอุตสหกรรมต่างๆ ซึ่งเมื่อมีอุปกรณ์ ที่จ่ายไฟตามมาตรฐาน UPOE ได้ ก็จะมีการพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ตามมาด้วย และในอนาคตข้างหน้านี้ จะมีอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน UPOE มากขึ้นอย่างแน่นอน
จาก White papers มาตรฐาน UPoE บน Cisco Switch , 1 Port จะจ่ายไฟได้สูงสุดที่ 60W
Reference : https://www.thenetworkdna.com/2020/10/all-about-poe-poe-and-upoe-cisco-devices.html