
การเชื่อมต่อเครือข่ายในดาต้าเซ็นเตอร์ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมากจากอดีต เมื่อก่อนดาต้าเซ็นเตอร์เป็นเพียงแหล่งเก็บข้อมูลพร้อมการเชื่อมต่อพื้นฐาน แต่ในปัจจุบัน กลับกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญระดับภารกิจหลัก (mission-critical) ซึ่งขับเคลื่อนแอปพลิเคชันล้ำสมัยในหลากหลายอุตสาหกรรมครับ
เมื่อองค์กรต่างๆ หันมาใช้ AI มากขึ้น พวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายเร่งด่วน เช่น
- จะขยายโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นได้อย่างไร?
- จะรักษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนมากขึ้นได้อย่างไร?
การมีพันธมิตรด้านเทคโนโลยีที่เหมาะสมจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กรที่ต้องการเป็นผู้นำในยุค AI นี้
Cisco กับกลยุทธ์เครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อโลกแห่ง AI
สำหรับ Cisco การสร้างเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์คือหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ด้าน AI ที่เน้นความปลอดภัยและครอบคลุมทุกมิติ เรามุ่งมั่นในการสร้างเครือข่ายที่ยืดหยุ่น ขยายได้ง่าย และจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด ทั้งในด้านแบนด์วิดท์ต่ำ ค่าใช้พลังงานน้อย และสอดคล้องกับความต้องการของแอปพลิเคชันยุคใหม่
ล่าสุด Cisco ได้รับการยอมรับจาก Gartner ว่าเป็น “ผู้นำ (Leader)” ในรายงาน Magic Quadrant™ ฉบับแรกสำหรับ Data Center Switching โดยพิจารณาจากความสามารถในการดำเนินการ (Ability to Execute) และวิสัยทัศน์ที่ครบถ้วน (Completeness of Vision)
ไฮไลท์จากความเป็นผู้นำของ Cisco
1. การส่งมอบสมรรถนะสูง
Cisco Nexus 9000 Series Switches เป็นหัวใจสำคัญในตลาด ด้วยนวัตกรรม Silicon One ของ Cisco ที่สามารถผลักดันการเปลี่ยนผ่านจากความเร็ว 100G ไปสู่ 400G และ 800G เพื่อตอบสนองความต้องการด้านแบนด์วิดท์ที่เพิ่มขึ้นจาก AI/ML, ระบบจัดเก็บข้อมูล และวิดีโอ
นอกจากนี้ Cisco 8000 Series Routers ที่ใช้ชิป Silicon One ยังรองรับระบบปฏิบัติการ SONiC สำหรับลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะทาง
2. การบริหารจัดการที่ง่ายขึ้น
Cisco Nexus Dashboard คือศูนย์กลางบริหารจัดการเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์แบบรวมศูนย์ รองรับทั้ง NX-OS และ ACI fabric มาพร้อมความสามารถด้านอัตโนมัติ การจัดการนโยบาย และวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทั้งยังสามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับองค์กรขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กได้อย่างยืดหยุ่น
3. การออกแบบเครือข่ายแนวใหม่
Cisco Nexus Hyperfabric คือบริการที่พลิกโฉมวิธีการออกแบบ สร้าง และดูแลเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ ให้สามารถขยายได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญมาก ระบบควบคุมบนคลาวด์จะช่วยดูแลเครือข่ายแทนผู้ใช้งาน รวมถึงสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์โดยอัตโนมัติ
ในอนาคตลูกค้าจะสามารถใช้งาน Hyperfabric AI ซึ่งรวม GPU จาก NVIDIA และระบบจัดเก็บข้อมูลจาก VAST Data ในรูปแบบคลัสเตอร์ที่พร้อมใช้งานสำหรับ AI โดยเฉพาะ
4. ความปลอดภัยในตัวเครือข่าย
Cisco ผสานความปลอดภัยเข้ากับเครือข่ายผ่าน Cisco N9300 Series Smart Switches ที่ขับเคลื่อนด้วย Cisco Hypershield และ Nexus Dashboard มอบความปลอดภัย ประสิทธิภาพสูง และความสามารถในการตั้งค่าได้อย่างยืดหยุ่น
Hypershield ช่วยให้การจัดการนโยบายความปลอดภัยเป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วย Security Cloud Control ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคลาวด์ที่สามารถกำหนดและควบคุมนโยบายความปลอดภัยทั่วทั้งองค์กรได้อย่างเป็นระบบ โดยสามารถควบคุมผ่าน:
- ตัวแทนคลาวด์ที่ใช้เทคโนโลยี eBPF จาก Isovalent
- การแบ่งโซน Layer 3 และ Layer 4 ผ่าน Smart Switches
- ไฟร์วอลล์ยุคใหม่ที่มีความสามารถ IDS/IPS และการกรอง URL
5. ความยืดหยุ่นและฟื้นตัวได้ของระบบดิจิทัล
Cisco ผสานข้อมูลเทเลเมตริจากเครือข่ายกับการวิเคราะห์ข้ามระบบจาก Splunk เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI ที่แม่นยำ ช่วยให้องค์กรมีระบบดิจิทัลที่ชาญฉลาดและฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
สู่อนาคตแห่งการเติบโต
ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง NVIDIA และ AMD ผนวกกับเทคโนโลยี Silicon One และแพลตฟอร์ม Nexus Dashboard ทำให้ Cisco พร้อมตอบสนองความต้องการของตลาดในวันนี้ และสร้างนิยามใหม่ให้กับการบริหารจัดการ AI Clusters ในอนาคต
Cisco ยังคงเดินหน้าส่งมอบนวัตกรรมที่จับต้องได้ และสร้างผลกระทบเชิงบวกทางธุรกิจให้กับลูกค้าทั่วโลก การได้รับการยอมรับจาก Gartner ครั้งนี้ ยืนยันถึงคุณค่าและความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของ Cisco ในตลาดเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์
ที่มา: https://blogs.cisco.com/datacenter/cisco-recognized-as-a-leader-in-the-gartner-magic-quadrant-for-data-center-switching
https://www.cisco.com/c/en/us/solutions/data-center/networking-promotions-free-trials/gartner-magic-quadrant-data-center-switching.html